ลิเวอร์พูล 3-3 อาร์เซนอล 5 ประเด็นที่น่าสนใจที่เราได้จากเกมนี้ที่แอนฟิลด์
ลิเวอร์พูลต่อยอดการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นเร้าใจในสนามแอนฟิลด์ของพวกเขาด้วยการตามตีเสมออย่างสุดมันส์ในนาทีสุดท้ายในเกมการแข่งขันกับอาร์เซนอล
และนี่ เราได้นำ 5 ประเด็นหลักที่ควรจะพูดถึงในเกมนี้มาคุยกัน
ในขณะที่เลสเตอร์ซิตี้กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงและคว้าชัยชนะได้ในไวท์ ฮาร์ท เลน ในเกมพบกับสเปอร์ส อย่างน้อยอาร์เซนอลก็อุ่นใจได้ชั่วคราวเมื่อพวกเขานั้นดูเหมือนจะได้เปรียบแมนเชสเตอร์ ซิตี้อยู่หลังจากจบเกมที่แอนฟิลด์
อาร์เซนอลควรจะรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถปล่อยให้แต้มสำคัญแบบนี้หลุดลอยไปได้ในตารางการแข่งขันที่เข้มข้นขณะนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่มีคู่แข่งแย่งแชมป์ทีมไหนสามารถยิงประตูคู่แข่งเพิ่มได้ในนาทีที่ 90 หรือหลังจากนั้น ในฤดูกาลที่แล้วก็เป็น มาร์ติน สเคอเทล ที่ฉกแต้มมาจากอาร์เซนอลได้ด้วยการตีเสมอนาทีสุดท้ายให้กับลิเวอร์พูล และในครั้งนี้เป็นโจ อัลเลน ที่ทำได้เช่นเดียวกัน
ลิเวอร์พูลและอาร์เซนอลเสมอกันไปอย่างสุดมันส์ 3-3 – ผลการแข่งขันครั้งนี้ยังทำให้อาร์เซนอลอยู่ในอันดับหนึ่งของตาราง
จาการวางบอลยาวไปยังกรอบเขตโทษของอาร์เซนอล และลูกโหม่งของคริสเตียน เบนเทเก้ช่วยทำให้ลิเวอร์พูลได้เปรียบก่อนที่จะได้ประตู ในเกมนี้ทั้งสองทีมได้แข่งกันอย่างสูสีมากแต่วิธีการในการเล่นและการแสดงออกนั้นต่างกันเล็กน้อย โดยเฉพาะเยอร์เก้น คล๊อปป์ กุนซือของลิเวอร์พูลที่ได้แสดงท่าดีใจอย่างสุดเหวี่ยงอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาที่ข้างสนามเพื่อแสดงความดีใจเมื่อลิเวอร์พูลยิงตีเสมอได้ในช่วงท้ายเกม
ผลกระทบจากลูกยิงตีเสมอนั้นยังไม่ส่งผลมากมายต่อการลุ้นแชมป์ของอาร์เซนอลมากนัก ในระหว่างการแข่งขันมีหิมะตกลงมาที่สนามแอนฟิลด์และนั่นยังเป็นสัญญาณบ่งบอกอีกด้วยว่าเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นเดือนที่ฤดูกาลจะจบลงนั้นยังห่างไกลอีกมากนัก สำหรับอาร์เซนอลนั้นมีโปรแกรมจะต้องแข่งขันกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ท็อตแน่ม ฮ๊อทสเปอร์ส, เอฟเวอร์ตัน, และแมนเชสเตอร์ซิตี้ในเกมออกไปเยือนก่อนที่จะหมดฤดูกาลนี้ แต่อาร์แซน เวนเกอร์นั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาคงจะเสียใจและเสียดายโอกาสที่จะเอาชนะลิเวอร์พูลได้จากการความผิดพลาดราคาแพงที่โดนตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
มันมีถึง 16 ประตูที่เกิดขึ้นในนาทีที่ 90 หรือหลังจากนั้นในเกมการแข่งขันระหว่างลิเวอร์พูลกับอาร์เซนอลตั้งแต่มีพรีเมียร์ลีกเป็นต้นมา เป็นสถิติที่โดดเด่นเลยทีเดียว
โดยเฉพาะ โอลิเวอร์ ชิรูด์ กองหน้าของอาร์เซนอลนั้นได้โชว์ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในเกมนี้หลังจากพลาดลงเล่นและเล่นได้ไม่ดีในต้นฤดูกาลที่ผ่านมา และได้คว้ารางวัลแมนออฟเดอะแมทช์ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำนัดนี้ที่สนามแอนฟิลด์
นักเตะชาวฝรั่งเศสผู้นี้ก่อความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัยในครึ่งแรก หลังจากที่เขานั้นพลาดโอกาสที่จะยิงเข้าประตูไปเพียงแค่ระยะสามหลาเท่านั้น และนี่จะเป็นสิ่งที่หลอกหลอนในจิตใจของเขาและโดนล้อต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้า อย่างไรก็ตามเขาก็สามารถยิงได้ถึงสองประตู ด้วยความสามารถที่รอบด้านและฟอร์มที่โดดเด่นของเขาในตอนนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขายังคงเป็นตัวหลักให้กับทีมของอาร์เซนอลในการลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้
ลูกแรกของเขาเกิดขึ้นจากการสะกิดแบบเฉี่ยวๆไปยังหน้าปากประตูก่อนที่จะโชคดีลูกฟุตบอลดิ้นและลอดตัวมินโญเล่เข้าประตูไป อย่างไรก็แล้วแต่นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเขาในการสลัดหลุดตัวประกบและได้ยิง ลูกที่สองของเขา เป็นการหมุนตัวแบบโยฮัน ครัฟฟ์และจบลงด้วยการยิงเสียบโคนเสาเข้าไปอย่างสวยงามซึ่งเป็นการโชว์ทักษะที่ดีของเขา
โอลิเวอร์ ชิรูด์ยิงได้ 11 ประตูในการลงสนาม 11 นัดจากการเป็นทีมเยือนในทุกๆรายการแข่งขัน
จากการที่อาร์เซนอลพยายามจะเคลียบอลไปให้พวกตัวรุกในทีม ชิรูด์นั้นทำหน้าที่ได้ดีในการเป็นตัวเป้าเพื่อพวกเขา มีเพียงแค่ อาร่อน แรมซีย์เท่านั้นที่จับบอลมากกว่าชิรูด์เมื่อเทียบกับผู้เล่นคนอื่นๆของอาร์เซนอล
ในแต่ฤดูกาลของหกฤดูกาลหลังที่ผ่านมา ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกนั้นจะมีผู้เล่นอย่างน้อยคนหนึ่งที่ยิงได้ 20 ประตู ชิรูด์นั้นจัดการยิงไปทั้งหมด 11, 16 และ 14 ลูกในสามฤดูกาลแรกที่เล่นในอังกฤษ ในปีนี้นั้นเขายิงไปแล้ว 12 ประตูและกำลังเล่นด้วยความมั่นใจที่จะยิ่งเพิ่มอีกในนัดต่อๆไป
ทางด้านลิเวอร์พูล โรเบอร์โต้ เฟอร์มิโน่นั้นก็สามารถโชว์ฟอร์มได้ดีเช่นกันในนัดนี้หลังจากที่ช่วยลิเวอร์พูลในการยิงหนึ่งลูกและส่งให้เพื่อนทำประตูได้อีกหนึ่งลูกในการเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้ 4-1 เมื่อปีที่แล้ว นักเตะชาวบราซิลนั้นยังสามารถช่วยเพื่อนร่วมทีมของเขาเอาชนะเชลซีและเลสเตอร์ ซิตี้ได้ในฤดูกาลนี้ ในการพบกันในเกมนี้กับอาร์เซนอลผู้นำในลีกขนณะนี้ที่แอนฟิลด์ เฟียร์มิโน่นั้นได้แสดงความยอดเยี่ยมออกมาอีกครั้ง
เขาสามารถหรือควรจะทำแฮททริคสามประตูได้ตั้งแต่ในครึ่งแรกด้วยซ้ำ เฟียร์มิโน่ในวัย 24 ปียิงได้เพียงแค่ลูกเดียวใน 24 เกมแต่การจับบอลที่สวยงามกับการยิงประตูที่ยอดเยี่ยมช่วยเบิกสกอร์ลูกแรกให้กับลิเวอร์พูลก่อน และหลังจากที่โดนอาร่อน แรมซีย์ยิงตีเสมอ เขาก็ช่วยลิเวอร์พูลให้กลับมานำอีกครั้งด้วยการยิงปั่นไซร้โค้งที่สุดยอดเข้าไปที่มุมด้านบนของเสาประตู
มีเพียงแค่คานประตูเท่านั้นที่ช่วยป้องกันลูกที่สามของเฟียร์มิโน่ได้ในครึ่งแรก หลังจากการหมุนตัวอย่างสุดสวยและวอลเล่ย์อย่างงดงามในกรอบเขตโทษ
อิทธิพลต่อเกมของเขานั้นลดน้อยลงไปในครึ่งหลังแต่ในเกมถัดไปที่ลิเวอร์พูลต้องเจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูลนั้นหวังว่าโรเบอร์โต้ เฟอร์มิโน่ จะแสดงความยอดเยี่ยมในการเล่นออกมาได้อีกครั้ง