หลุยส์ ซัวเรซยิงแฮททริคสามประตูให้บาร์เซโลน่าและทำให้ทีมของเขายังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ด้วยการไล่ขยี้ แอธเลติก บิลเบาที่เหลือสิบคน
ทีมมาเยือนอย่างแอธเลติก บิลเบาได้เสียผู้รักษาประตูอย่าง กอร์ฆ่า อิไรซอส เมื่อเขาถูกใบแดงไล่ออกจากสนามเมื่อทำฟาล์วหลุยส์ ซัวเรซกองหน้าชาวอุรุกวัย และเมสซี่ก็ได้เปลี่ยนลูกจุดโทษนั้นให้เป็นประตู
เนยมาร์นั้นมาทำประตูจากลูกชิพอย่างสวยงามเป็นลูกที่สองให้กับทีมก่อนที่จะหมดครึ่งแรก และหลุยส์ ซัวเรซกับ อิวาน ราคิติชก็มาทำให้ทีมนำไป 4-0 หลังจากที่ลงสนามมาในครึ่งหลัง
ซัวเรซนั้นยังยิงเพิ่มได้อีกจากการส่งบอลของอาดาร์ ตูราน ก่อนที่เขาจะมาทำประตูที่หกให้กับทีมด้วยการโหม่งและทำให้บาร์เซโลน่านั้นตามหลังแอตเลติโก มาดริดแค่เพียงสองคะแนน
ซัวเรซนั้นเป็นผู้นำในการตอบสนองเกมที่สวยงามและทันสมัยในการเล่นฟุตบอล
ลูกยิงจุดโทษของลิโอเนล เมสซี่นั้นนำไปสู่ชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในลีคของบาร์เซโลน่าในฤดูกาลนี้ ในฤดูกาลนี้นั้นพวกเขาหวังว่าจะรักษาแชมป์ลาลีกาได้จากการที่สะดุดในช่วงเดือนธันวาคมและช่วงต้นของเดือนมกราคมด้วยการเสมอสามนัดในสี่นัดที่ลงทำการแข่งขันทั้งก่อนและหลังหยุดพักช่วงคริสมาสต์
ในขณะที่แอตเลติโก มาดริดนั้นสามารถรักษาชัยชนะได้สี่นัดติดต่อกันด้วยการชนะ ลาส พัลมาส 3-0 ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ ทีมของหลุยส์ เอ็นริเก้รู้ตั้งแต่ก่อนลงสนามแล้วว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะขึ้นไปอยู่ที่หนึงได้ในสัปดาห์นี้ เพราะฉะนั้นมันเกี่ยวกับความตั้งใจของพวกเขาล้วนๆ
งานของพวกนั้นดูง่ายขึ้นอย่างมากเมื่อกองหลังที่น่าเกรงขามของทีมฝั่งตรงข้ามเกิดความสับสนและปล่อยให้หลุยส์ ซัวเรซสอดแทรกเข้าไปหลังเซนเตอร์แบคอย่าง ซาเวียร์ เอกซิต้า และทำให้ทีมได้จุดโทษซึ่งเมสซี่เปลี่ยนมันเป็นประตู
บาร์เซโลน่านั้นได้สร้างความได้เปรียบหลังจากลงสนามมาครึ่งหลังด้วยการไล่บี้แอธเลติก บิลเบาด้วยฟอร์มที่อลังการของพวกเขา
เมสซี่นั้นพึ่งจะได้รับรางวัลบัลลงดอร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เขานั้นได้เล่นเพียงแค่ 45 นาทีก่อนที่จะถูกเปลี่ยนตัวท่ามกลางความกังวลว่าเขาจะเจ็บจากอาการกล้ามเนื้อตึง
ซัวเรสนั้นได้รับโอกาสที่จะยืนเป็นกองหน้าตัวกลางและตอนนี้เขาได้กลายเป็นผู้นำในการทำประตูเมื่อนับรวมห้าลีคดังในยุโรป ด้วยการยิง 29 ประตูจาก 29 เกมในเกมแข่งขันทุกรายการ แต่พฤติกรรมในสนามที่ไม่ดีของเขานั้นอาจทำให้เขาอาจจะมีปัญหาได้เช่นเดียวกัน
ภาพจากในทีวีแสดงให้เห็นว่า เอ็กซิต้าชำเลืองตามองซัวเรซก่อนที่จะดึงแขนของซัวเรซเพื่อทำให้เขาห่างจากบอล กองหลังผู้นี้อาจจะโดนแบนย้อนหลังได้
โอกาสที่จะได้รับรางวัล พิชีชี สำหรับการทำประตูสูงสุดในฤดูกาลนี้
หลุยส์ ซัวเรซนั้นยิงไปแล้ว 18 ประตูในลีคสำหรับฤดูกาลนี้ในขณะที่เนยมาร์ยิงไป 16 การแข่งขันเพื่อรางวัลพิชีชีซึ่งเป็นรางวัลรองเท้าทองคำสำหรับผู้ทำประตูสูงสุดในฤดูกาลจะยิ่งเข้มข้นไปอีกในอาทิตย์นี้เมื่อผู้นำสี่คนแรกในตารางต่างยิงได้กันทุกคน
หลังจากที่คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ และคาริม เบนเซม่านั้นยิงกันไปคนละ 16 ประตูในฤดูกาลนี้และยิงกันไปคนละ 2 ประตูในเกมที่เอาชนะ สปอร์ตติ้ง กีฆอน 5-1 ตอนนี้ความกดดันอยู่ที่ซัวเรซกับเนย์มาร์ที่จะต้องรักษาการยิงต่อไป
ผู้เล่นทั้งสองจากบาร์เซโลน่านั้นตอบสนองได้ในเชิงบวก ซัวเรซยิงสามประตูที่ยอดเยี่ยมและขึ้นไปเป็นผู้นำในการยิงประตูที่ 18 ลูก
ซัวเรซสามารถฉกฉวยโอกาสได้จากความลังเลของเอ็กซิต้าและมันนำไปสู่จุดโทษซึ่งเมสซี่ก็ไม่พลาดสังหารเข้าไปทำให้บาร์ซ่าขึ้นนำ ก่อนที่เขาจะเล่นกับเนย์มาร์และทำให้เนย์มาร์ได้ยิงลูกที่ 16 ในลาลีกาฤดูกาลนี้จากการชิพเข้าไปอย่างสุดสวย
กองหน้าชาวบราซิลนั้นตอบแทนซัวเรซด้วยการช่วยให้ซัวเรซได้ยิงลูกที่สามในช่วงต้นครึ่งหลัง และยังได้แสดงการเล่นด้วยเท่าที่ยอดเยี่ยมด้วยการทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษและส่งบอลตัดผ่านกองหลังไปให้ราคิติชยิงเป็นลูกที่สี่ให้กับทีม
ซัวเรสนั้นเพิ่มลูกที่ห้าด้วยลูกยิงที่เหนือชั้นด้วยการควบคุมลูกเปิดของตูรานก่อนที่จะยิงด้วยเท้าผ่านมือผู้รักษาประตูไป และเพิ่มอัตราชัยชนะในเกมนี้เข้าไปอีกด้วยการมาโหม่งเพิ่มจากลูกเปิดด้านข้างของ แซร์จิโอ้ บุสเกตต์
มูเนียอินนั้นต้องเสียสละกับลูกจุดโทษที่ทีมเสียไป
กอร์ฆ่า อิไรซอสนั้นถูกไล่ออกภายในสามนาทีแรกจากการทำฟาว์ลหลุยส์ ซัวเรซ และทำให้มูเนียอินต้องถูกเปลี่ยนตัวออกก่อนอย่างรวดเร็ว ถ้ามันเป็นคืนที่ควรจะลืมสำหรับ อิไรซอส คืนนี้ก็เป็นคืนที่ไม่น่าจดจำสำหรับมูเนียอินเพื่อนร่วมทีมของเขาเช่นกัน
กองหน้าวัย 23 ปีนั้นได้เริ่มต้นเล่นในลีคฤดูกาลนี้เป็นเกมแรกตั้งแต่เขาเจ็บเอ็นไขว้หลังหัวเข่าตั้งแต่เดือนเมษายนและเขาก็ตั้งใจที่จะสร้างความแตกต่างที่ดีให้ได้ในเกมนี้ แทนที่จะเป็นแบบนั้นค่ำคืนของเขาถูกทำให้จบลงอย่างรวดเร็วโดยไม่ใช่ความผิดของเขาเลย
เขานั้นได้โอกาสเดียวที่น่าจับตาเมื่อเขานั้นสามารถวิ่งตัดผ่านหลังการป้องกันที่ผิดพลาดของ เจอร์ราร์ด ปิเก้ และปั่นป่วน เคลาดิโอ้ บราโว้ ผู้รักษาประตูของบาร์เซโลน่าเพื่อส่งต่อไปให้ ฮาเวียร์ อีราโซ่ ก่อนที่อีราโซ่จะพลาดโอกาสทำประตูไป